เมนู

สีลัง อเจตสิกันติกถา



[1407] สกวาที ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นไป เป็นนิพพาน เป็นจักขายตนะ ฯลฯ เป็นกายายตนะ
ฯลฯ เป็นรูปายตนะ ฯลฯ เป็นโผฏฐัพพายตนะ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ผัสสะไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ ศรัทธา ฯลฯ
วิริยะ ฯลฯ สติ ฯลฯ สมาธิ ฯลฯ ปัญญา ไม่เป็นเจตสิกหรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1408] ส. ผัสสะเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ศีลเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ ศรัทธา ฯลฯ
วิริยะ ฯลฯ สติ ฯลฯ สมาธิ ฯลฯ ปัญญา เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. ศีลเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1409] ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ศีลมีผลไม่น่าปรารถนา หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ศีลมีผลน่าปรารถนา ก็ต้องไม่กล่าวว่าศีล
ไม่เป็นเจตสิก.
[1410] ส. ศรัทธามีผลน่าปรารถนา และศรัทธาเป็นเจตสิก
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา และศีลเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. วิริยะ สติ สมาธิ ฯลฯ ปัญญา มีผลน่าปรารถนา และ
ปัญญา เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา และศีลเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1411] ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา แต่ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. ศรัทธามีผลน่าปรารถนา แต่ศรัทธาเป็นเจตนา หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศีลมีผลน่าปรารถนา แต่ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. วิริยะ ฯลฯ สติ สมาธิ ฯลฯ ปัญญามีผลน่าปรารถนา
แต่งปัญญา ไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1412] ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ไม่มีผล ไม่มีวิบาก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศีลมีผล มีวิบาก มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ศีลมีผล มีวิบาก ก็ต้องไม่กล่าวว่า ศีลไม่เป็น
เจตสิก ฯลฯ
[1413] ส. จักขายตนะ ไม่เป็นเจตสิก และไม่มีวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก และไม่มีวิบาก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ รูปายตนะ ฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะ ไม่เป็นเจตสิก และไม่มีวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก และไม่มีวิบาก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1414] ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก แต่มีวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. จักขายตนะ ไม่เป็นเจตสิก แต่มีวิบาก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ศีลไม่เป็นเจตสิก แต่มีวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ รูปายตนะ ฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะ ไม่เป็นเจตสิก แต่มีวิบาก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1415] ส. สัมมาวาจา ไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาทิฏฐิ ไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมาวาจา ไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ สัมมาวายามะ ฯลฯ สัมมาสติ
ฯลฯ สัมมาสมาธิ ไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมากัมมันตะ ฯลฯ สัมมาอาชีวะไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. สัมมาทิฏฐิไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมาอาชีวะไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ สัมมาวายามะ ฯลฯ สัมมาสติ
ฯลฯ สัมมาสมาธิไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1416] ส. สัมมาทิฏฐิเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาวาจาเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมาทิฏฐิเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมากัมมันตะ ฯลฯ สัมมาอาชีวะเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ สัมมาวายามะ สัมมาสติ ฯลฯ
สัมมาสมาธิเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัมมาวาจาเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัมมาสมาธิเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. สัมมากัมมันตะ ฯลฯ สัมมาอาชีวะเป็นเจตสิก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1417] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ศีลไม่เป็นเจตสิก หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. เมื่อศีลเกิดขึ้นแล้วดับไป บุคคลผู้มีศีลดับไปแล้วนั้น
เป็นคนทุศีล หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. ถ้าอย่างนั้น ศีลก็ไม่เป็นเจตสิกน่ะสิ.
สีลัง อเจตสิกันติกถา จบ

อรรถกถาสีลัง อเจตสิกันติกถา


ว่าด้วย ศีลไม่เป็นเจตสิก


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่อง ศีลไม่เป็นเจตสิก. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความ
เห็นดุจลัทธิของนิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายว่า เมื่อศีลเกิดขึ้นแม้ดับไปแล้ว
บุคคลนั้นชื่อว่ามีการสั่งสมศีลอันมีสมาทานเป็นเหตุ เขาชื่อว่าเป็นผู้มีศีล
เหตุใด เพราะเหตุนั้นนั่นแหละ ศีลจึงมิใช่เจตสิก ดังนี้ คำถามของสกวาที
หมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำที่เหลือในที่นี้ พึง
ทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในเรื่องของคำว่าทานมิใช่เจตสิกนั่นแหละ แม้
ปรวาทีให้ลัทธิตั้งไว้แล้วก็ไม่สามารตั้งไว้ได้เลย เพราะถือเอาพระสูตร
โดยมิได้พิจารณา ดังนี้แล.
อรรถกถาสีลัง อเจตสิกันติกถา จบ